เหตุผลต่าง ๆ สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องประดับปี่เซี่ยะ

ปี่เซี่ยะประกอบด้วยรายการเช่นสร้อยคอ, กำไล, แหวน, ต่างหู, กำไลและอื่น ๆ ที่มีมูลค่าสูงโดยคนรักปี่เซี่ยะที่ใช้ในการทำเครื่องประดับมานานหลายศตวรรษ จนถึงวันที่วัสดุอื่น ๆ ไม่สามารถเกินความนิยมของรายการเครื่องประดับที่ทำจากทองคำ ผู้ที่อยู่ในธุรกิจการผลิตหรือขายปี่เซี่ยะสามารถได้รับผลกำไรจำนวนมาก นี่เป็นเพราะความปรารถนาอย่างต่อเนื่องของคนรักปี่เซี่ยะที่จะลงทุนในรายการเหล่านี้ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้สินค้าทองมีความสุขกับผู้ซื้อทั่วไป ส่วนต่อไปนี้กล่าวถึงสาเหตุส่วนใหญ่

ทองคำเป็นวัสดุหนึ่งที่ผู้ผลิตปี่เซี่ยะชอบที่จะทดลอง

มันอ่อนมากและสามารถใช้ในการประดิษฐ์เครื่องประดับรายการในหลากหลายมาก การออกแบบปี่เซี่ยะแบบดั้งเดิมจากหลายประเทศมักจะโกรธจัด ในขณะเดียวกันสินค้าทองที่มีมูลค่าของนักออกแบบก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ผู้หญิงในช่วงวัยรุ่นของพวกเขาถูกดึงดูดต่อรูปแบบที่ทันสมัยและทันสมัยของปี่เซี่ยะที่สร้างขึ้นในทองคำ ดังนั้นเครื่องประดับที่ทำจากทองคำจึงสามารถตอบสนองความคาดหวังได้ทุกประเภท

ไม่ว่าสินค้าปี่เซี่ยะจะมีอายุเท่าไหร่มันก็ยังคงเป็นรูปแบบการลงทุนที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถวิเคราะห์ตลาดทองคำได้ตลอดเวลาเพื่อพบว่าสินค้าปี่เซี่ยะเหล่านี้ยังคงเพลิดเพลินกับการแข็งค่าในราคาของพวกเขา ในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจคุณสามารถคาดหวังการลงทุนในเครื่องประดับทองคำเพื่อรับผลตอบแทนที่เหมาะสม นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ผู้คนอ้างถึงในการลงทุนซื้อปี่เซี่ยะจากทองคำ

รักษามูลค่าที่น่าประทับใจ

ปี่เซี่ยะที่ทำจากทองคำมีความเป็นไปได้น้อยที่จะหลุดจากรูปแบบไปตามกาลเวลา คุณภาพของปี่เซี่ยะนี้เพื่อรักษารูปลักษณ์และคุณค่าของมันเป็นอีกเหตุผลสำหรับผู้ซื้อที่จะชอบพวกเขามากกว่ารายการที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ ไม่มีโอกาสที่เครื่องประดับทองคำจะเสื่อมเสียกัดกร่อนหรือสนิมและยังคงน่าสนใจแม้หลังจากหลายปี หากคุณซื้อปี่เซี่ยะเหล่านี้วันนี้คุณสามารถส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไปของคุณได้อย่างง่ายดาย

เมื่อพูดถึงปี่เซี่ยะสำหรับงานแต่งงานทองคำเป็นวัสดุที่ทำให้จิตใจของคุณโดดเด่นในทันที ในประเทศเช่นอินเดียเครื่องประดับทองคำเป็นส่วนสำคัญของพิธีแต่งงานในรัฐต่าง ๆ ในทำนองเดียวกันงานแต่งงานในประเทศตะวันตกก็เป็นสักขีพยานในการปรากฏตัวของปี่เซี่ยะข้อมือ ความสง่างามและความเป็นธรรมชาติของเครื่องประดับเหล่านี้ช่วยเติมเต็มอารมณ์ของเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://ylgprecious.co.th/th/products.php?parent_id=3&cate_id=

วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการทำความเข้าเกี่ยวกับสอน forex

นักลงทุนรายใหม่ทุกคนมีอุปสรรคใหญ่อย่างหนึ่งเมื่อพวกเขาเริ่มเรียนรู้วิธีการค้า forex คุณเป็นใครและทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้เรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตของคุณถึงจุดนี้ไม่ใช่สินทรัพย์ในโลกของ Forex trading ความจริงมันเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ หากคุณพยายามนำกระบวนการตัดสินใจในชีวิตประจำวันเข้าสู่โลกของการซื้อขาย forex คุณจะประสบกับความสูญเสียที่น่าทึ่ง

ให้ฉันยกตัวอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่ามันยากที่จะเรียนรู้วิธีการค้า forex ตามเนื้อผ้าในชีวิตและฉันรู้ว่านี่คือการทำให้เป็นระเบียบง่าย แต่ต้องแบกรับกับฉันที่นี่เราเติบโตขึ้นมาเรียนรู้จากการสนับสนุนที่เป็นบวกและลบ ในกรณีของการสนับสนุนในเชิงบวกนั่นหมายความว่าเมื่อเราทำอะไรบางอย่างและผลที่ได้จะทำให้เรารู้สึกดีแล้วเราก็จะทำอย่างนั้นต่อไป ในกรณีของการเสริมแรงเชิงลบนั่นหมายความว่าถ้าเราทำอะไรบางอย่างและผลลัพธ์ที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีเราก็จะหยุดทำสิ่งนั้น

นั่นเป็นสิ่งที่ดีและดีที่จะทำให้คุณไม่สามารถลุกจากมือคุณ

ได้ด้วยการใช้เตาร้อนๆ แต่ถ้าคุณอนุญาตให้มีการเสริมกำลังในเชิงบวกและเชิงลบเพื่อบังคับการค้าขายของคุณคุณก็จะได้รับบัพติสมาจากไฟในตลาดอย่างแท้จริง ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการซื้อขาย forex เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด! นั่นเป็นเพราะตลาด forex มีองค์ประกอบบางอย่างที่เป็นแบบสุ่มแก่พวกเขา นั่นหมายความว่าวันหนึ่งคุณอาจตัดสินใจที่จะใช้เวลานานในการซื้อขายโดยอาศัยการวิเคราะห์ตัวชี้วัดหรือรูปแบบบางอย่างและหากผลกำไรในวันนั้นคุณจะเชื่อมโยงรูปแบบนั้นขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่ดีที่คุณได้รับสำหรับการชนะ

วิธีที่ดีที่สุดในการค้า Forex

หลายคนไม่ได้ตระหนักว่าพวกเขากำลังได้รับผลกระทบจากการเสริมแรงที่ตลาด forex จานออกซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกเขาทำงานรอบปีจากผู้เชี่ยวชาญโฟผู้เชี่ยวชาญ forex สอน forex พยายามหาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อการค้า forex เพื่อให้พวกเขา ไม่ต้องสูญเสียเพราะในจิตใจของพวกเขาสูญเสียไม่ดี ดีวิธีที่ดีที่สุดเพื่อการค้า forex  การสอน forex ไม่ได้จริงเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเลย! วิธีที่ดีที่สุดในการซื้อขาย forex  สอน forex คือการหารูปแบบหรือโอกาสทางการค้าที่ทำกำไรได้ในระยะยาว

วิธีที่ดีที่สุดในการค้า forex คือการเอาชนะแนวโน้มตามธรรมชาติของจิตใจของคุณที่จะคิดใน และเริ่มต้นการคิดในความน่าจะเป็น นั่นหมายความว่าแทนที่จะพิจารณาเพียงหนึ่งการค้าหรือกำมือของธุรกิจการค้าคุณวิเคราะห์โอกาสทางการค้าเดียวกันกว่าร้อยหรือหลายร้อยธุรกิจการค้า ถ้าโดยการซื้อขายนี้ ‘ระยะยาว’ ของการค้าที่คุณจะจบลงด้วยกำไรมากแล้วคุณให้การค้ามัน ถ้าไม่เช่นนั้นคุณลืมและใช้การวิเคราะห์และแนวความคิดเดียวกันกับโอกาสทางการค้าอื่น ๆ

ไม่เรียนรู้วิธีการค้า Forex ตั้งแต่เริ่มต้น

แน่นอนกระบวนการนี้ทั้งหมดได้น่าเบื่อมากถ้าคุณกำลังทำด้วยตัวเองเสมอเพราะมีหลายพันชุดตัวบ่งชี้รูปแบบและเงื่อนไขตลาดเพื่อทดสอบ! คุณสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับตัวเองได้โดยการหมากับความพยายามของคนอื่นในการหาโอกาสที่ทำกำไรเหล่านี้และแม้กระทั่งระบบที่ตั้งไว้ล่วงหน้าซึ่งสามารถทำกำไรให้กับคุณได้ ในฐานะที่เป็นพ่อค้าที่ต้องการเรียนรู้วิธีการค้า forex  สอน forex คุณจะได้รับที่ที่คุณต้องการจะเร็วมากถ้าคุณได้รับตัวเองระบบการซื้อขาย Forex ง่ายกว่าการพัฒนาและการค้าหนึ่งตัวเอง

สิ่งที่ผู้เริ่มต้นควรรู้เกี่ยวกับบริษัท รับกำจัดปลวก

รับกำจัดปลวก การเข้าทำลายของปลวกสามารถทำลายบ้านของคุณได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามมันสามารถป้องกันได้ คุณต้องการที่จะหามาตรการที่ควรดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงบ้านของคุณที่ได้รับความเสียหายจากแมลงเหล่านี้หรือไม่? ในบทความนี้เราจะแสดงถึงความรู้พื้นฐานที่คุณควรระวังหากคุณต้องการเรียนรู้วิธีกำจัดปลวก หลายคนรู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องรับมือกับการบุกรุกของปลวก หลายคนคิดว่าถึงเวลาขายบ้านแล้วย้ายไปที่เมืองหรือภูมิภาคอื่น เราไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น ทำไมคุณควรออกจากเพื่อนและญาติของคุณทั้งหมดและย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะคุณไม่มีประสบการณ์ที่จำเป็นในการฆ่าปลวก

มาตรฐานและการทำงานของบริษัท รับกำจัดปลวก

การรู้วิธีกำจัดปลวกไม้แห้งมีความสำคัญมาก แม้ว่าคุณจะไม่เคยประสบปัญหานี้ในบ้านของคุณเองคุณก็ยังต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรในกรณีฉุกเฉิน นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าปลวกสามารถอยู่รอดได้เกือบทุกที่ ทำไมไม่ทำรังในบ้านของคุณล่ะ หากบ้านของคุณมีโครงสร้างไม้คุณอาจมั่นใจได้ว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตรายจากการเข้าทำลายของปลวก

ในหลายกรณีการปรากฏตัวของปลวกในบ้านของใครบางคนไม่สามารถตรวจพบได้ง่ายเว้นแต่ว่ามีการทำลายเกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามในบางกรณีอาจสายเกินไป คุณจะป้องกันได้อย่างไร เป็นที่ทราบกันดีว่าคนเราถูกล่อลวงให้ทำการตรวจสอบปลวกด้วยตนเอง พวกเขาล้มเหลวเพราะขาดประสบการณ์ที่จำเป็นที่มืออาชีพมี

ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาจาก บริษัท กำจัดศัตรูพืชเป็นทางออกที่ดีและผู้ที่ไม่มีเวลาเริ่มต้นค้นคว้าพฤติกรรมของปลวกอาจพบว่าตัวเลือกนี้มีราคาไม่แพงมาก มีหลายชนิดของปลวกที่สามารถพบได้ในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียซึ่งมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้วกับสารเคมีบางชนิดดังนั้นในกรณีนี้มันจะยิ่งยากที่จะลองและกำจัดอาณานิคมของปลวกด้วยตัวคุณเอง

มีหลายวิธีในการจัดการกับปลวกและขึ้นอยู่กับระดับของการรบกวนที่คุณพบ คุณอาจลองและพยายามฆ่าฝูงผสมพันธุ์ที่โจมตีบ้านของคุณ อย่างไรก็ตามในบางกรณีอาจล่าช้าและคุณต้องขอความช่วยเหลือจาก บริษัท กำจัดปลวก

Michael Rozatoru เป็นอดีตผู้เชี่ยวชาญด้านกำจัดศัตรูพืช เขามีประสบการณ์มากกว่ายี่สิบปีในสาขาการ กำจัดปลวก ตอนนี้เขาเกษียณแล้วเขากำลังเขียนบล็อกบทความฟรีที่แนะนำผู้คนเกี่ยวกับวิธี กำจัดปลวก และวิธีการเลือก บริษัท รับกำจัดปลวกที่ดีที่สุด อย่าลังเลที่จะเยี่ยมชมบล็อกของเขาหากคุณประสบกับการระบาดของปลวกที่คล้ายกันและต้องการค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาของคุณได้อย่างรวดเร็วทันใจ

 

 

 

5 คุณสมบัติสำคัญของการเป็นผู้นำที่ดี

ผู้นำ

เรื่องของผู้นำนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หลายองค์กรพยายามที่จะหาวิธีในการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารทุกระดับให้เกิดขึ้น เพื่อที่จะให้ผู้นำเหล่านี้ เป็นผู้ผลักดันความสำเร็จให้เกิดขึ้นกับองค์กร และจากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ในเรื่องของภาวะผู้นำนั้น ก็ยืนยันว่า องค์กรที่ประสบความสำเร็จนั้น เป็นผลมาจากการที่ผู้บริหารของตนมีภาวะผู้นำ และสามารถนำองค์กร นำคน ให้ไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้

ผู้นำที่ดีต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ ต้องเป็นคนที่มองเห็นภาพในอนาคตที่คนอื่นมองไม่เห็น มองเห็นโอกาสในอนาคตได้ และเมื่อมองเห็นภาพอนาคตแล้ว ก็ต้องสามารถกำหนดเป้าหมาย และแผนงานในการไปสู่เป้าหมายนั้นได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่ฝันเฟื่องเพียงอย่างเดียว

ผู้นำที่ดีจะต้องกระจายงานให้ทีมงานอย่างเหมาะสม เป็นการนำแผนงานที่กำหนดไว้นั้น มากระจายสู่พนักงาน และทีมงาน โดยพิจารณาความเหมาะสมของพนักงานแต่ละคนให้เหมาะกับงานแต่ละอย่าง เพื่อให้เขาสามารถที่จะทำงานได้ตามที่ถนัด รวมทั้งให้โอกาสคนอื่นๆ ได้ทำงาน ผู้นำอาจจะต้องยอมรับความเสี่ยงในเรื่องนี้ กล่าวคือ ยอมที่จะไว้วางใจพนักงาน และเชื่อว่าพนักงานจะสามารถทำงานนั้นได้ ผมเห็นผู้นำหลายคนที่ใช้วิธีนี้กับลูกน้องของตนเอง ก็อาจจะมีลูกน้องที่ทำไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วลูกน้องจะทำเต็มที่เพราะนายไว้ใจอย่างมาก ก็ไม่อยากทำให้นายผิดหวัง

ผู้นำที่ดีจะต้องสร้างทีมงานได้ จะต้องเป็นคนที่ทำงานให้สำเร็จ โดยเน้นทั้งงาน เน้นทั้งคน และในการสร้างทีมงานที่ดี ผู้นำก็ต้องมีทักษะในการสื่อความที่ดี มีความเป็นธรรมกับพนักงานทุกคนในทีม ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เวลาทำงานก็จะเน้นให้ทุกคนร่วมกันทำงาน ไม่มีการทำตัวเด่นเพียงคนเดียว หรือรับแต่ชอบ ไม่ยอมรับผิด

ผู้นำที่ดีจะต้องสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานได้ มีพลังในการสร้างกำลังใจให้กับทีมงาน และกระตุ้นให้พนักงานมีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จได้ เหมือนกับที่ Jack Welch อดีต CEO ของ GE ได้ใช้คำว่า Energize ก็คือการทำให้คนอื่นมีพลังในการทำงานอยู่เสมอ

ผู้นำที่ดีจะต้องเป็นผู้พัฒนาคนอื่นอยู่เสมอ มีความเข้าใจพนักงานที่มีผลงานไม่ดี และพยายามที่จะพัฒนาพนักงานให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะในการทำงานมากขึ้น ผู้นำที่ดีจะไม่ด่าพนักงานว่า “ทำไมโง่จัง แค่นี้ยังทำไม่ได้” (ถ้าทำได้ก็คงมาเป็นหัวหน้าของผู้นำคนนี้ไปแล้ว) แต่จะพยายามพัฒนาให้พนักงานทำงานให้ได้ ผู้นำที่ดีจึงเปรียบเสมือนครู ที่สอนพนักงานทั้งด้านความรู้ในการทำงาน และเป็นตัวอย่างสำหรับพฤติกรรมที่เหมาะสมด้วย

ดังนั้นในการพัฒนาผู้นำที่ดี ก็พยายามพัฒนาใน 5 มุมมองที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็น่าจะทำให้องค์กรของเรามีผู้นำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ครับ

บทบาทการผู้นำที่ดี

10 บทบาทการเป็นผู้นำที่ดี

 

Teamwork and team spirit

 

  1. บทบาทการติดตาม คือ บทบาทในการติดตามดูแลการดำเนินการ ติดตามดูความก้าวหน้า และคุณภาพของการปฏิบัติงาน ดูความสำเร็จหรือล้มเหลวในแต่ละโครงการ ผลการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาสำรวจความต้องการและค่านิยมของลูกค้า ติดตามและวิเคราะห์ปัจจัยของสิ่งแวดล้อมองค์การที่จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการและโอกาสต่าง ๆ
  2. บทบาทการให้การสนับสนุน คือการที่ผู้นำให้ความสนใจและความเป็นเพื่อนแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือเพื่อนร่วมงาน แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจ เห็นใจกันและกัน และให้การสนับสนุนให้ผู้ที่มีความวิตกกังวลในการปฏิบัติงาน ยินดีรับฟังการปรับทุกข์และปัญหาต่าง ๆ รู้ความสนใจของคนอื่น พยายามส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในอาชีพ
  3. บทบาทการสร้างเครือข่าย คือการพยายามเข้าสังคม เพื่อที่จะได้พบปะกับบุคคลที่เป็นแหล่งข้อมูล และพยายามรักษามิตรภาพนั้นไว้อย่างต่อเนื่อง
  4. บทบาทการขจัดความขัดแย้งและการสร้างทีมงาน คือการกระตุ้นและอำนวยความสะดวกในการหาหนทางในการแก้ไขความขัดแย้ง ผลักดันให้มีการสร้างทีมงานและความร่วมมือ และสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในองค์การและทีมงาน
  5. บทบาทการให้ข้อมูล โดยการบอกให้ทราบถึงข้อมูลและผลการตัดสินใจที่จำเป็นแก่การปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา จัดหาเอกสารทางวิชาการที่จำเป็นต่อการทำงาน ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเทคนิควิธีในการปฏิบัติการ และวิธีการที่จะเพิ่มพูนภาพพจน์ หรือชื่อเสียงที่ดีขององค์การ
  6. บทบาทในการสร้างความชัดเจน คือการที่ผู้นำต้องสร้างความชัดเจนในภาระหน้าที่และวัตถุประสงค์ของงานต่อผู้ปฏิบัติงาน โดยการมอบหมายงาน ให้คำชี้แนะวิธีการทำงานและความรับผิดชอบต่องานนั้นที่ชัดเจน กำหนดเวลาในการทำงานและความคาดหวังต่อผลงานให้ผู้ปฏิบัติงานได้ทราบอย่างชัดเจน
  7. บทบาทในการวางแผนและจัดองค์การ คือบทบาทของผู้นำในการกำหนดวัตถุประสงค์ของแผนระยะยาว และกลยุทธ์ในการปรับตัวขององค์การต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร เสนอกิจกรรมทุกขั้นตอนของการดำเนินการของโครงการต่าง ๆ จัดแบ่งทรัพยากรตามลำดับความสำคัญของกิจกรรม หรือโครงการ ตัดสินวิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพผลผลิตและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในองค์การ
  8. บทบาทในการแก้ปัญหา โดยชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์หรือผลของปัญหาต่องาน วิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ เพื่อหาสาเหตุและทางเลือกในการแก้ปัญหา จัดการแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น
  9. บทบาทในการปรึกษาและมอบหมายงาน คือบทบาทในการที่จะต้องไตร่ถามความรู้สึกของผู้ปฏิบัติงาน ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา กระตุ้นให้เสนอแนะวิธีการปรับปรุง เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และมอบหมายอำนาจหน้าที่ในการดำเนินงานที่สำคัญและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง
  10. บทบาทในการสร้างแรงจูงใจ โดยการใช้เทคนิคในการมีอิทธิพลต่อความรู้สึก ค่านิยม อันทำให้คนปฏิบัติงานตั้งใจและทุ่มเทความสามารถในการทำงานและยอมรับในวัตถุประสงค์ของงาน ชักจูงแก่บุคคลต่าง ๆ ให้การสนับสนุน ร่วมมือ ช่วยเหลือและทรัพยากรที่จำเป็น รวมทั้งการกำหนดพฤติกรรมที่เหมาะสมในการปฏิบัติงาน

ภาวะการเป็นผู้นำองค์กรในยุคโลกาภิวัตน์

shutterstock_115418047ปัจจุบันนี้ธุรกิจหรือองค์กรต่างมีการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น การบริหารองค์กรหรือการจัดการยุคใหม่นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องการผู้นำในการบริหารองค์กรที่มีวิสัยทัศน์และเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งคนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการองค์กร เพราะองค์กรจะเจริญเติบโตขึ้นก็เพราะพนักงานทุกคนในองค์กร ผู้นำที่สามารถสร้างพลังแห่งความศัทธาให้กับพนักงานในองค์กรได้ หรือสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์ให้บุคคลในองค์กรได้รับรู้ได้ก็จะเป็นผู้นำที่ทรงพลังในยุคโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้

เนื่องจากการแข่งขันทางธุรกิจหรือองค์กรธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้อยู่แต่เพียงภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งมีการซื้อขายสินค้าและการบริการระหว่างประเทศต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นโลกาภิวัตน์ล้วนมีผลกระทบ เพราะการแข่งขันแบบโลกาภิวัตน์ มุ่งเน้นต่อการสร้างมาตรฐานการบริการที่มีคุณภาพสูงขึ้นแก่ลูกค้า ผู้นำในยุคปัจจุบันต้องมีความแตกต่างจากการบริหารธุรกิจในอดีตเป็นอย่างมาก เพราะความต้องการของลูกค้าและพนักงานมีความแตกต่างและเปลี่ยนแปลงไป และผู้นำที่มีประสิทธิภาพในยุคโลกาภิวัตน์จะต้องประกอบด้วยการคิดแบบโลกาภิวัตน์ เล็งเห็นเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรม พัฒนาความชำนาญทางด้านเทคโนโลยี สร้างคู่ค้าธุรกิจและพันธมิตร และสร้างการมีส่วนร่วมในการเป็นผู้นำ

การมีไมตรีจิต มีน้ำใจต่อกัน สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ย่อมจะมีผลให้เกิดการร่วมมือร่วมใจมากกว่าการใช้อำนาจหน้าที่สั่งการ โดยต้องพยายามผูกมิตรตั้งแต่ต้นและป้องกันไม่ให้เกิดความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ และหากมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องแจ้งให้ทราบ เพื่อมิให้เกิดความคลาดเคลื่อนและเข้าใจในชุดข้อมูลที่ได้สื่อสารกันแล้วอย่างผิดพลาด ซึ่งการประสานงานที่ดีจะช่วยให้การทำงานบรรลุเป้าหมายได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ทุกคน ทุกฝ่ายมีความเข้าใจถึงนโยบายและวัตถุประสงค์ของหน่วยงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลา ทรัพยากร และสิ่งของต่างๆ ในการทำงานจะทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มผลสัมฤทธิ์ชองงานได้มากขึ้น และยังสร้างความกลมเกลียว ความเข้าใจอันดี ความรัก ความสามัคคี และก่อให้เกิดการทำงานเป็นทีม สร้างความสำนึกในการรับผิดชอบร่วมกัน รวมถึงเข้าใจข้อเท็จจริงและปัญหาของหน่วยงานที่สามารถจะนำไปสู่การกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และพิจารณาลู่ทางเพื่อการปรับปรุงและพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย

เทคนิคการฝึกอบรมและการฝึกผู้นำองค์กรในด้านต่างๆ

เลือกวิธีการสอนเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้สัมผัสและมองเห็นสภาพความเป็นจริงมากที่สุด โดยใช้โสตทัศนูปกรณ์อย่างเพียงพอ เลือกวิธีการสอนที่จะทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ทดลองทำงานจริงๆ เลือกวิธีการสอนเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้มีการฝึกบ่อยครั้งในเวลากำหนด ให้ฝึกจากวิธีง่ายไปหายากตามลำดับการทำงานแต่ละส่วน และตอนสุดท้ายให้ฝึกทำงานตั้งแต่ต้นจนสำเร็จขั้นสุดท้าย

ในส่วนของการให้คำปรึกษาแนะนำแก่พนักงานในสถานประกอบการก็เช่นเดียวกัน ถือว่าเครื่องมือแก้ปัญหาของคนในองค์กร อันจะนำมาซึ่งผลสำเร็จขององค์กรในที่สุด เพราะขึ้นชื่อว่า “คน” ในทุกหนทุกแห่งไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ เพศ สัญชาติ เชื้อชาติ และศาสนา ย่อมหลีกหนีไม่พ้นกับคำว่า “ปัญหา” พูดง่ายๆว่าปัญหากับคนเป็นของคู่กัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ที่ไหนมีคน ที่นั่นมีปัญหา

เมื่อคนหนีไม่พ้นคำว่า “ปัญหา” เครื่องมือที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาและกำจัดปัญหาให้กับคนได้ก็คือ การให้คำปรึกษา (Counseling) เป็นทางออกและทางเลือกที่เหมาะสมกับหลายๆ สถานการณ์ในชีวิตคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตของคนที่ทำงานในองค์กร

เราต้องเข้าใจว่าคนที่มีอยู่รวมกันในองค์กรใดองค์กรหนึ่งนั้น มาจากต่างพ่อ ต่างแม่ ต่างเพศ ต่างวัย ต่างชนชั้น ต่างวรรณะ ต่างวุฒิ ต่างการศึกษา และมีความต่างจิต ต่างใจกันเป็นพื้นฐาน เมื่อเข้าอยู่รวมกันโดยมีผลประโยชน์ร่วมกันแล้ว การกระทบกระทั่งกันทั้งเรื่องของงานและเรื่องของส่วนตัวก็ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา มากบ้างน้อยบ้าง สลับกันไปตามอารมณ์ของคนในแต่ละช่วงเวลา

ในทุกสังคม เรามักจะเห็นว่าเมื่อคนบางคนมีปัญหา คนบางคนจะเป็นผู้ให้คำปรึกษา ซึ่งมีทั้งผู้ให้คำปรึกษาเพราะความจำเป็น หรือเป็นผู้ให้คำปรึกษาแบบสมัครใจ มีทั้งผู้ที่มีความสามารถในการให้คำปรึกษาและผู้ที่ขาดความเข้าใจในหลักของการให้คำปรึกษา ซึ่งอาจจะแก้ปัญหาได้บ้างไม่ได้บ้าง

เมื่อหันมามองในองค์กรของเรา จะพบว่าเมื่อเพื่อนร่วมงานมีปัญหาเขามักจะหาใครบางคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมเป็นผู้ให้คำปรึกษา ถ้าผู้ให้คำปรึกษาสามารถช่วยให้เขาลดระดับของปัญหาลงหรือแก้ปัญหาได้ ครั้งต่อๆไปเมื่อมีปัญหาเขาก็จะเดินเข้ามาหาอีก และคนที่เป็นผู้ให้คำปรึกษานี้จะได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นผู้นำกลุ่มทางจิตใจไปได้เหมือนกัน ถ้าผู้ที่เป็นผู้นำทางจิตใจของคนในองค์กรเป็นคนดีก็ดีไป แต่ถ้าผู้นำทางจิตใจอาศัยความได้เปรียบนี้ไปใช้ในทางที่ไม่สร้างสรรค์อาจจะเกิดปัญหาอันชวนให้ปวดหัวแก่การบริหารงานภายในองค์กรได้เหมือนกัน

ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบการให้คำปรึกษาในองค์กรเกิดขึ้นตามยถากรรม ไร้รูปแบบ ไร้กระบวนยุทธ์ หรือเกิดกระบวนการให้คำปรึกษาแบบลองผิดลองถูก องค์กรจึงควรให้ความสำคัญกับการจัดทำระบบการให้คำปรึกษาขึ้นภายในองค์กร

ผู้นำองค์กรที่ดีต้องเข้าใจและให้ความสำคัญในการบริการลูกค้า

องค์กรที่ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องมีผู้นำมีส่วนร่วม ช่วยสนับสนุน ผลักดัน และดำเนินการ จะเป็นพลังงานในระดับสูงที่ช่วยให้ องค์กรขับเคลื่อน และเปลี่ยนแปลงได้อย่างทรงพลัง โดยมีการบริการที่เป็นเลิศ ประกอบไปด้วย

1.เข้าใจความรู้สึกของลูกค้า มองออกว่าลูกค้า รู้สึกอย่างไร คิดอย่างไร ต้องการอะไร มีประเด็นอะไรบ้างที่องค์กรควรปรับปรุงในมุมมองของลูกค้า

2.ลงพื้นที่จริง ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงในการให้บริการที่สูงนั้น มักจะหาเวลาไปลงพื้นที่หน้างานจริงเป็นระยะๆ และหมั่นถามเพื่อฝูง บุคคลภายนอก ถึงระดับการบริการที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

3.ให้ความสำคัญกับพนักงาน เอาใจใส่พนักงานถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เพราะพนักงานนี่เอง คือ ผู้ชี้ชะตาว่า องค์กรของเรามี บริการที่ดีหรือแย่ ในสายตาของลูกค้า

4.ทำเป็นตัวอย่าง การปฏิบัติงานหรือการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้า ผู้นำเองจำเป็นต้องเป็นผู้คำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้า ให้แง่คิด มุมมองที่เป็นปนะโยชน์ต่อลูกค้าเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของทีมงาน

5.ระบบประเมินผลและจูงใจ เพราะการที่องค์กรมีระบบประเมินผลงานที่ดี แยกแยะว่าใครบริการได้ดี ใครบริการไม่ดี พร้อมทั้ง การตอบแทนให้แก่ผู้ที่ทำได้ดี ย่อมจะส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนที่มีศักยภาพจนทำให้เป็นกลไก ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เกิดขึ้นเป็นชั่วครั้ง ชั่วคราว

6.การอบรม เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ให้แก่พนักงาน เพื่อให้พนักงานมีศักยภาพ การบริการลูกค้าที่สูงขึ้น

7.การบริการที่ดี ย่อมเกิดจากการที่มีพนักงานที่มีใจบริการแล้ว จะต้องมีการออกแบบระบบการบริการลูกค้าที่ดีอีกด้วย เพราะในแต่ละขั้นตอนที่ลูกค้าใช้บริการนั้น เป็นการสร้างความประทับใจที่ลุกค้าจะกลับมาใช้บริการอีก

8.ผู้นำที่ดีจะต้องเป็นผู้พัฒนาคนอื่นอยู่เสมอ มีความเข้าใจพนักงานที่มีผลงานไม่ดี และพยายามที่จะพัฒนาพนักงานให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะในการทำงานมากขึ้น

ดังนั้น ผู้นำนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับองค์กร ซึ่งหลายๆองค์กรพยายามที่จะหาวิธีในการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารทุกระดับให้เกิดขึ้น  เพื่อที่จะให้ผู้นำเหล่านี้ เป็นผู้ผลักดันความสำเร็จให้เกิดขึ้นกับองค์กรในทุกๆด้าน ฉะนั้น หากองค์กรมีผู้นำที่ดีก็ย่อมจะส่งผลงให้องค์กรมีระดับบริการที่ดีอีกด้วย

คุณสมบัติของผู้นำที่ทรงประสิทธิภาพ ที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องมี

องค์กรไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถที่จะได้รับคำชื่นชมว่ามีความสำเร็จได้ทั้งนั้น เพียงแค่มีองค์ประกอบในการทำงานดี ความสำเร็จก็รออยู่ไม่ไกลและที่สำคัญที่สุด คือ ผู้นำต้องดี เพราะถ้ามีผู้นำดีลูกน้องก็ไม่หลงทาง ฉะนั้นสิ่งที่ผู้นำองค์กรควรมี คือ

1.ผู้นำที่รู้จักตัดสินใจอย่างเด็ดขาด โดยจะเป็นคนที่พูดจาคำไหนคำนั้น ถือได้ว่าเป็นผู้นำที่ดีที่สุด บางครั้งการตัดสินใจดูเหมือนจะใช้ความคิดของตนเป็นใหญ่ไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ เพราะเขากำลังอยู่ในบทบาทซึ่งเป็นผู้นำและเขาจะติดตามรับผิดชอบไปจนเสร็จสิ้นทั้งกระบวนการ ถ้าผู้นำมีความมุ่งมั่น ตัดสินใจเร็ว ไม่โลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยๆ ลูกน้องก็จะเกิดความมั่นใจ เชื่อถือ และสามารถทำงานได้โดยไม่สะดุดบ่อยๆ

2.มีความเป็นผู้นำ เพราะสำคัญที่สุด การลงมือที่เฉียบขาดและมีการประสานงานที่เฉียบแหลมมักอยู่ข้างหน้าผู้อื่นเสมอ ทั้งการคิด การแสดงความคิดเห็น การลงมือทำ และความรับผิดชอบ

3.ผู้นำที่มีจุดยืน มีอุดมการณ์ที่ชัดเจน ก็เป็นที่ต้องการเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจนแล้วก็สามารถมุ่งหน้าไปยังจุดๆ นั้นได้ง่าย และเร็วขึ้น

4.ผู้นำที่ดีต้องมีมนุษยสัมพันธ์ดี ทั้งในและนอกองค์กร บางครั้งนอกองค์กรอาจจะเป็นคนนิสัยดีเยี่ยม อัธยาศัยดี น่าคบหา แต่กับคนใกล้ตัวอย่างลูกน้องในองค์กร อาจจะเปลี่ยนนิสัยไปอยู่ขั้วตรงข้าม อย่างนั้นก็นับเป็นผู้นำที่ใช้ไม่ได้

5.มีบุคลิกภาพที่ดีเยี่ยม แต่งกายเหมาะสมกับรูปร่าง ฐานะทางสังคม ต้องดูสะอาดสะอ้าน ดูสุภาพ เข้างานสังคมได้อย่างไม่ขัดหูขัดตาและมีบุคลิกดึงดูดใจน่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป

6.มีการพูดจาด้วยความนุ่มนวล รู้จักไตร่ตรอง รู้จักสถานการณ์ และรู้จักคนที่เรากำลังเจรจาด้วย ความสำเร็จก็รออยู่ไม่ไกล ในการพูดนั้นต้องคิดก่อน มีการเตรียมการมาก่อน พูดอย่างสั้น กระชับ ตรงประเด็น จริงใจ เป็นธรรมชาติ

7.ผู้นำที่ดีต้องรู้จักลูกน้องของตนว่าใครเหมาะที่จะทำอะไร งานไหนควรให้ใครรับผิดชอบ คนไหนเก่งอะไร มีข้อบกพร่องด้านใดอยู่บ้าง ก็พยายามแก้ไขให้เขาสมบูรณ์แบบขึ้น การรู้จักนิสัยใจคอ นอกจากจะทำให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพขึ้นแล้วยังแสดงให้เห็นว่าผู้นำเอาใส่ใจต่อลูกน้องของเขาเป็นอย่างดี

8.รับฟังความคิดเห็นของลูกน้อง เพราะบางทีลูกน้องอาจมีข้อเสนอดีๆ อีกทั้งการฟังลูกน้องพูดหรืออธิบายจะช่วยให้ลูกน้องทำงานอย่างสบายใจ ไม่รู้สึกกดดันมากนัก เมื่อมีปัญหาเขาจะกล้ามาถามหรือเสนอแนะในข้อที่เขาเห็นว่าเป็นทางเลือกที่ดีอีกด้วย

9.ผู้นำที่ดีต้องให้โอกาสลูกน้อง โดยเปิดโอกาสให้เขาได้ทำงานที่พิสูจน์ความสามารถของเขา ควรสนับสนุนและให้โอกาสในการสร้างผลงานของลูกน้องพร้อมทั้งผลักดันและสนับสนุน

10.สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ ความซื่อสัตย์ ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างของความซื่อสัตย์ต่อองค์กรและเป็นคนดีที่ไว้ใจได้ เพราะคุณสมบัตินี้จะเป็นแบบอย่างให้ลูกน้องตระหนักถึงคุณลักษณะที่ดีที่จะยึดถือความซื่อสัตย์ตามไปด้วย

ภาวะการเป็นผู้นำอย่างสร้างสรรค์ที่เรียนรู้กันได้

ภาวะผู้นำกับการทำงานเป็นทีม
การเป็นผู้นำในสภาพแวดล้อมใหม่นี้จะเป็นการทดสอบความสามารถของผู้บริหารในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเป็นผู้นำ การกระตุ้นและผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมในระยะยาวจำเป็นต้องมีมากกว่าอำนาจในการสั่งการ ภาวะผู้นำแบบเน้นความร่วมมือร่วมใจเป็นสิ่งที่จำเป็น และถือเป็นความท้าทายที่ผู้นำจำเป็นต้องเรียนรู้และประยุกต์ใช้ภาวะผู้นำแบบต่างๆ นอกจากนั้นทักษะการจูงใจจะเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารผลผลิตในยุคคลาวด์ ซึ่งผู้นำจะต้องแบกรับภาระโดยการทำงานแบบหลากหลายหน้างาน และการบริหารแบบข้ามทีมในหลากหลายสถานที่ ซึ่งทีมงานบางคนอาจไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง

ปัญหาใหญ่ของผู้บริหารในปัจจุบัน คือไม่สามารถทำให้งานสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ได้เพราะทีมงานขาดประสิทธิภาพ ทำให้เป็นที่สงสัยว่าจะทำอย่างไร จะทำให้งานสำเร็จลุล่วงได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งผู้บริหารส่วนใหญ่ขาดการคิดเชิงกลยุทธ์ และขาดทักษะเรื่องบริหารคน ถึงแม้ว่าจะมีความรู้ ความสามารถ ในงานที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่ก็ตาม เพราะโดยตำแหน่งแล้วผู้บริหารไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียวอีกต่อไป ต้องบริหารงานผ่านทีมงานเป็นหลัก ซึ่งบุคคลซึ่งพร้อมที่จะพัฒนาตนเองและพัฒนาองค์กรอยู่ตลอดเวลา นนอกจากจะบริหารงานได้อย่างดีเยี่ยมแล้วยังสามารถริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่เหนือความคาดหมายได้อีกด้วย นอกจากนั้นคุณลักษณะอื่นๆของผู้นำประเภทนี้คือ สามารถรับได้ทุกสถานการณ์ไม่มีความขัดแย้งเพราะมองปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา พูดจานุ่มนวล ถูกต้องตามกาละเทศะ มีบุญญาบารมี มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า อยู่ตลอดเวลา มีสติรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา และมีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม

การเป็นผู้นำมีความสำคัญมากต่อการเป็นผู้บริหาร คนที่มีตำแหน่งบริหารแต่ยังไม่ถนัดในการเป็นผู้นำก็มีอยู่บ้าง สมัยนี้ความเป็นผู้นำสามารถเรียนกันได้และฝึกฝนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันมีผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีวิสัยทัศน์กว้างไกลในหลายองค์กร มองเห็นทะลุปรุโปร่งว่า การที่จะฝึกความเป็นผู้นำให้ผู้บริหารทุกระดับในองค์กรนั้น แก่นแท้ที่เป็นหัวใจสำคัญที่ควรเริ่มต้นก่อน คือการฝึกให้ผู้บริหารสามารถคิดอย่างเป็นระบบและคิดแบบองค์รวมอย่างสร้างสรรค์ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เพราะการคิดเป็นที่มาของการกระทำทุกอย่างในทุกขั้นตอนของการบริหาร การทำงาน และการดำเนินชีวิตส่วนตัว

ทักษะที่สำคัญของผู้บริหารยุคใหม่ในองค์กรของการเป็นผู้นำ

1

ระบบการบริหารจัดการ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ แต่เมื่อนำเข้ามาในกับผู้คนในองค์กร ย่อมต้องมีการปรับแต่งให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรอย่างเหมาะสม มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาภายในที่เรื้อรังโดยไม่คาดคิด การที่ระบบบริหารทั้งหลายขาดประสิทธิภาพไป อาจกล่าวได้ว่ามาจากตัวผู้ใช้ ซึ่งมีความซับซ้อนทางอารมณ์นั่นเอง ด้วยความซับซ้อนของระบบสังคมในปัจจุบัน ทำให้มนุษย์นั้นมีความแตกต่างหลากหลาย ทั้งในแง่ของประสบการณ์ การศึกษา ทัศนคติ ความเชื่อ ดังนั้นการสื่อสารเพื่อให้เข้าใจกันจึงเป็นไปได้ยากขึ้น ด้วยภาวะความเร่งรีบและการแข่งขัน ก็ทำให้การฟังลดน้อยลง ไม่เกิดความร่วมมือกันในการทำงาน และบางครั้งก็เกิดเป็นความขัดแย้งที่ไม่พึงปรารถนา ความแบ่งแยก ความไม่ไว้วางใจต่อกันนั้น ส่งผลต่อระบบการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อีกทั้งพนักงานรุ่นใหม่ Gen Y ไม่ชอบถูกบังคับทางความคิดและจิตใจ และไม่อดทนอยู่ในบรรยากาศที่ไม่ชอบ พวกเค้ายังอายุน้อย จึงพร้อมที่จะเปลี่ยนงานได้ทุกเมื่อ จึงอาจกล่าวได้ว่า ปัญหาสำคัญที่องค์กรทั้งหลายต้องเผชิญ คือ “ปัญหาเรื่องคน” นั่นเองถ้าเกิดปัญหาข้อผิดพลาด ที่มีสาเหตุมาจากคน เราจะพบว่ามีผู้บริหารอยู่ 2 ประเภทที่จะใช้วิธีแก้ปัญหาที่ต่างกัน ผู้บริหารยุคเก่าคือ “เจ้านาย” ที่บริหารงานด้วยหลัก 6 บ. นั่นคือ ชอบสั่งการแบบขู่เข็ญโดยใช้อำนาจไม่สอนงาน เห็นอะไรดีไม่เคยชม ชอบตำหนิเห็นอะไรก็ผิดไปหมดถ้าตัวเองทำผิดหรือตัดสินใจพลาด ก็อ้างว่าเป็นเพราะคนอื่น แต่คนอื่นอย่าทำผิดมาจะถูกลงโทษทันที เขาไม่อยากเห็นใครเด่นกว่า ไม่ค่อยฟังความเห็นใคร

องค์กรยุคเก่าที่บริหารงานด้วย”ความกลัว” พนักงานจะรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่เกิดความไว้วางใจ เมื่อเกิดข้อผิดพลาด ก็จะซุกไว้ด้วยกลัวความผิด อาจทำให้ปัญหาเล็กน้อยก็ลุกลามไปจนยากที่จะแก้ไข คนที่ไม่อยากถูกตำหนิ ก็คอยระวังตัวแจ จนไม่กล้าทำอะไร เห็นสิ่งที่ไม่เวิร์คก็จะเฉยชา องค์กรจะเป็นยังไงก็ช่าง ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง องค์กรยุคใหม่ ควรหล่อเลี้ยงด้วย “ความรัก” ผู้บริหารยุคใหม่ ต้องแก้ปัญหาเรื่องคน และเรื่องการสื่อสารในองค์กรได้ ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น “เจ้านาย หรือ Boss” ที่เอาแต่สั่งการและตำหนิ ไปเป็น “ผู้หล่อเลี้ยง หรือ Mentor” เริ่มด้วยการรู้จัก และยอมรับในตนเองก่อน นำไปสู่ความเข้าใจผู้อื่น มีทักษะการสื่อสารที่ดีและมีความเห็นอกเห็นใจ ส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน เกิดความรักและผูกพันซึ่งกันและกัน บรรยากาศการทำงานเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำให้พนักงานรู้สึกอยากทำงานด้วย อยากเห็นองค์กรเจริญเติบโต

การฝึกอบรมพัฒนาผู้นำในองค์กรที่ดีควรจะต้องมีเทคนิคดังนี้


การฝึกอบรมได้ถูกใช้อย่างกว้างขวางเพื่อปรับปรุงภาวะผู้นำในองค์กรเพื่อเพิ่มทักษะทั่วไปและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในการจัดการ การจัดฝึกอบรมโดยส่วนใหญ่จะจัดสำหรับผู้บริหารระดับต้นและระดับกลาง มุ่งเน้นที่งาน ทั้งนี้การฝึกอบรมภาวะผู้นำสามารถจัดทำได้หลายแบบ ทั้งระยะสั้นที่เน้นเฉพาะด้านไปจนครอบคลุมทักษะในระดับกว้าง โดยรูปแบบของโปรแกรมการฝึกอบรมก็จะขึ้นอยู่กับการประยุกต์ทฤษฎีภาวะผู้นำในแต่ละทฤษฎี ซึ่งประสิทธิภาพในการฝึกอบรมนั้นขึ้นอยู่กับการออกแบบว่าดีแค่ไหน การออกแบบ การฝึกอบรมควรจะใช้พื้นฐานทฤษฎีการเรียนรู้ ซึ่งการฝึกอบรมจะสำเร็จได้นั้นจำเป็นต้องมีส่วนประกอบด้วยกันดังนี้
-มีวัตถุประสงค์การเรียนรู้ชัดเจน เพราะจะช่วยให้เป้าหมายของการฝึกอบรมกระจ่างชัด เนื่องจากการที่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนนั้นจะช่วยบอกว่าการฝึกอบรมนี้มีคุณค่าอย่างไรต่อผู้เข้ารับการอบรม
-เนื้อหาการฝึกอบรมควรจะชัดเจนและมีความหมายพื่อช่วยให้เกิดความเข้าใจภาพรวมและสามารถจำเนื้อหาได้
-มีการเรียบเรียงเนื้อหาอย่างเหมาะสม ในการฝึกอบรมควรจัดระบบและเรียงลำดับในทิศทางที่จะก่อให้เกิดการเรียนรู้ ที่ง่ายแก่การเรียนรู้และควรมีการหยุดพักเพื่อหลีกเลี่ยงการเหนื่อยล้า
-การฝึกอบรมควรมีความหลากหลาย อย่างเช่น ควรสลับด้วยการพูดคุยหรือกิจกรรม
-ควรให้ผู้เข้าอบรมได้ปฏิบัติที่ได้จากการเรียนรู้ โดยการลงมือทำนี้ควรมีทั้งในระหว่างการฝึกอบรมและเมื่อกลับไปทำงาน
-การฝึกอบรมสามารถช่วยให้ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงขึ้น รวมถึงการให้กำลังใจเพื่อก่อให้เกิดความมั่นใจอย่างต่อเนื่อง
-มีการติดตามผลที่เหมาะสม การเรียนรู้ในบางเรื่องจึงควรมีการติดตามผลภายหลังการฝึกอบรม เพื่อทบทวนความก้าวหน้าในการประยุกต์ใช้ทักษะใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้มา การพูดคุยถึงปัญหาและความสำเร็จให้สนับสนุนเพิ่มเติม

จะเห็นได้ว่าการจัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาผู้นำในองค์กรเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรู้แบบบูรณาการ ตั้งแต่ความรู้ในเรื่องของทฤษฎีภาวะผู้นำ ความเข้าใจในเรื่องกระบวนการเรียนรู้และเทคนิครวมทั้งอื่นๆ ดังนั้นการฝึกอบรมจะมีมีประโยชน์อย่างแท้จริงต่อองค์กรเพราะบุคลากรจะได้รับภายหลังเสร็จสิ้นการฝึกอบรม เพื่อนนำไปพัฒนาทั้งตนเองและองค์กรให้มีประสิทธ์ภาพได้

ผู้นำที่ดีจะต้องสร้างทีมงานได้จะต้องเป็นคนที่ทำงานให้สำเร็จโดยเน้นทั้งงานเน้นทั้งคนและในการสร้างทีมงานที่ดี

27

เรื่องของผู้นำนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หลายองค์กรพยายามที่จะหาวิธีในการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารทุกระดับให้เกิดขึ้น เพื่อที่จะให้ผู้นำเหล่านี้ เป็นผู้ผลักดันความสำเร็จให้เกิดขึ้นกับองค์กร และจากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ในเรื่องของภาวะผู้นำนั้น ก็ยืนยันว่า องค์กรที่ประสบความสำเร็จนั้น เป็นผลมาจากการที่ผู้บริหารของตนมีภาวะผู้นำ และสามารถนำองค์กร นำคน ให้ไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ คุณสมบัติ 5 ประการในการเป็นผู้นำที่ดีผู้นำที่ดีต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ ต้องเป็นคนที่มองเห็นภาพในอนาคตที่คนอื่นมองไม่เห็น มองเห็นโอกาสในอนาคตได้ และเมื่อมองเห็นภาพอนาคตแล้ว ก็ต้องสามารถกำหนดเป้าหมาย และแผนงานในการไปสู่เป้าหมายนั้นได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่ฝันเฟื่องเพียงอย่างเดียว

ผู้นำที่ดีจะต้องกระจายงานให้ทีมงานอย่างเหมาะสม เป็นการนำแผนงานที่กำหนดไว้นั้น มากระจายสู่พนักงาน และทีมงาน โดยพิจารณาความเหมาะสมของพนักงานแต่ละคนให้เหมาะกับงานแต่ละอย่าง เพื่อให้เขาสามารถที่จะทำงานได้ตามที่ถนัด รวมทั้งให้โอกาสคนอื่นๆ ได้ทำงาน ผู้นำอาจจะต้องยอมรับความเสี่ยงในเรื่องนี้ กล่าวคือ ยอมที่จะไว้วางใจพนักงาน และเชื่อว่าพนักงานจะสามารถทำงานนั้นได้ ผมเห็นผู้นำหลายคนที่ใช้วิธีนี้กับลูกน้องของตนเอง ก็อาจจะมีลูกน้องที่ทำไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วลูกน้องจะทำเต็มที่เพราะนายไว้ใจอย่างมาก ก็ไม่อยากทำให้นายผิดหวัง

ผู้นำที่ดีจะต้องสร้างทีมงานได้ จะต้องเป็นคนที่ทำงานให้สำเร็จ โดยเน้นทั้งงาน เน้นทั้งคน และในการสร้างทีมงานที่ดี ผู้นำก็ต้องมีทักษะในการสื่อความที่ดี มีความเป็นธรรมกับพนักงานทุกคนในทีม ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เวลาทำงานก็จะเน้นให้ทุกคนร่วมกันทำงาน ไม่มีการทำตัวเด่นเพียงคนเดียว หรือรับแต่ชอบ ไม่ยอมรับผิด ผู้นำที่ดีจะต้องสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานได้ มีพลังในการสร้างกำลังใจให้กับทีมงาน และกระตุ้นให้พนักงานมีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จได้ เหมือนกับที่ Jack Welch อดีต CEO ของ GE ได้ใช้คำว่า Energize ก็คือการทำให้คนอื่นมีพลังในการทำงานอยู่เสมอ

ผู้นำที่ดีจะต้องเป็นผู้พัฒนาคนอื่นอยู่เสมอ มีความเข้าใจพนักงานที่มีผลงานไม่ดี และพยายามที่จะพัฒนาพนักงานให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะในการทำงานมากขึ้น ผู้นำที่ดีจะไม่ด่าพนักงานว่า “ทำไมโง่จัง แค่นี้ยังทำไม่ได้” (ถ้าทำได้ก็คงมาเป็นหัวหน้าของผู้นำคนนี้ไปแล้ว) แต่จะพยายามพัฒนาให้พนักงานทำงานให้ได้ ผู้นำที่ดีจึงเปรียบเสมือนครู ที่สอนพนักงานทั้งด้านความรู้ในการทำงาน และเป็นตัวอย่างสำหรับพฤติกรรมที่เหมาะสมด้วย

ความจำเป็นในการฝึกอบรมที่ปรากฏชัดแจ้งในปัจจุบัน

27

ความจำเป็นในการฝึกอบรม หมายถึง สถานการณ์ที่เป็นปัญหาต่อผลสำเร็จของงานซึ่งอาจแก้ไขได้ด้วยการฝึกอบรม นั่นคือ สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการขาดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และทัศนคติที่เหมาะสมนั่นเองจากความหมายของความจำเป็นในการฝึกอบรมดังกล่าวแล้วข้างต้น แสดงอย่างชัดเจนว่า สภาพการณ์ที่เป็นปัญหา ซึ่งได้เกิดขึ้นในหน่วยงานนั้น อาจมีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน และมีเพียงบางสาเหตุเท่านั้นที่สามารถแก้ไขด้วยการฝึกอบรม ส่วนสาเหตุอื่นๆ อาจจำเป็นต้องแก้ไขด้วยวิธีการอื่น ๆ และการฝึกอบรมอาจเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในการแก้ปัญหาเท่านั้นดังนั้น เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบดำเนินการฝึกอบรม ที่จะทำการสำรวจและวิเคราะห์เพื่อแยกแยะค้นหาปัญหา ซึ่งมีสาเหตุที่แท้จริง มาจากการขาดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และทัศนคติ ซึ่งก็คือการค้นหาความจำเป็นในการฝึกอบรม นั่นเอง และ การหาความจำเป็นในการฝึกอบรม จึงหมายถึง” การค้นหาสภาวะที่มีปัญหาเกี่ยวกับงานหรือบุคคลในองค์การ ซึ่งสามารถแก้ไข ได้ด้วยการฝึกอบรม เพื่อจะช่วยทำให้หน่วยงานหรือองค์การสามารถดำเนินงานไปสู่จุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ได้ดีเพิ่มขึ้น”ในเมื่อการค้นหาความจำเป็นในการฝึกอบรมก็คือ การค้นหาปัญหา ผู้รับผิดชอบดำเนินการจึงควรจะต้องเข้าใจ ความหมายของคำว่า “ปัญหา” เสียก่อนว่า ปัญหาคือ สิ่งใดก็ตามที่เบี่ยงเบนไปจากสิ่งที่พึงประสงค์ เนื่องจากโดยปกติแล้ว ในการดำเนินงานใดๆ ก็ตาม เราควรจะต้องมีการกำหนดจุดประสงค์หรือตั้งเป้าหมายไว้ก่อน แล้วจึงหาทางดำเนินการ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์นั้น ๆ แต่การดำเนินงานอาจประสบกับอุปสรรคหรือมีข้อขัดข้องต่าง ๆ ทำให้ผลของการดำเนินงาน ไม่ตรงกับจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ นั่นหมายถึง มีปัญหาเกิดขึ้น ดังแผนภูมิข้างล่างนี้

ความจำเป็นในการฝึกอบรมที่ปรากฏชัดแจ้งในปัจจุบัน หมายถึง สภาพการณ์ที่เป็นปัญหาข้อขัดข้อง และก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานได้อย่างชัดเจน จำเป็นจะต้องฝึกอบรมบุคคลที่เกี่ยวข้องเสียก่อน จึงจะสามารถแก้ปัญหานั้นได้ เช่น พนักงานไม่สามารถใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบได้ ทำให้ผลผลิตของหน่วยงานตกต่ำ จึงจำเป็นต้องฝึกอบรมการใช้เครื่องมืออุปกรณ์นั้นๆ เสียก่อน ความจำเป็นเช่นนี้เรียกสั้นๆได้ว่า เป็นความจำเป็นประเภท “ขัดข้อง”ความจำเป็นในการฝึกอบรมที่จะปรากฏในอนาคต เกิดจากปัญหาที่มีเครื่องชี้หรือส่อว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ในอนาคต ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานั้นเกิดขึ้นในอนาคตรวมทั้งเพื่อเป็นการรองรับการเปลี่ยนแปลง จึงทำการฝึกอบรมเสีย ในปัจจุบัน เช่น เมื่อบุคลากรได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากระดับผู้ปฏิบัติการเป็นระดับบริหารซึ่งต้องมีการบังคับบัญชาคนและควบคุมงาน บุคลากร เหล่านั้นจึงควรจะต้องรับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการบริหารงานเสียก่อนเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น

ความเจริญด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีต่างเข้ามามีบทบาทในสถาบันฝึกอบรมผู้นำองค์กรในด้านต่างๆ

ผู้นำนับว่ามีบทบาทสำคัญ ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ ผู้นำจึงต้องอาศัยกลไก ยุทธศาสตร์ เทคนิคหรือกระบวนการบริหารเพื่อพัฒนาพนักงานซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าคนสำคัญที่ต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในระบบการศึกษาที่เน้นคุณภาพเป็นหลัก ในทำนองเดียวกันเราต่างถือว่าผู้นำเป็นหัวใจสำคัญต่อการปฏิรูปโรงเรียน โดยที่ผู้นำจำต้องบูรณาการเทคโนโลยีสู่ระบบโรงเรียน ควรดูแลให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนการวางแผนการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความหมาย

โดยเฉพาะปัจจุบันนี้จะเห็นว่าโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความเจริญด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีต่างเข้ามามีบทบาทในวิถีชีวิตของคนไทยอย่างแยกไม่ออก รวมทั้งในระบบการศึกษาถือว่าเป็นระบบเปิดและเป็นกลไกสำคัญที่พัฒนาเยาวชนของชาติให้เป็นผู้มีความรู้ และความสามารถให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกตลอดจนการแข่งขันด้านเศรษฐกิจในระดับสากล เพื่อไปสู่คุณภาพและนำมาพัฒนาสังคมไทยให้เกิดเสถียรภาพและความมั่นคงในอนาคต

ปัจจุบันนี้ฝ่ายบริหารระดับสูงของโรงงานอุตสาหกรรม ได้มองเห็นถึงความสำคัญของการจัดฝึกอบรมทรัพยากรกำลังคนหรือคนงานในหน่วยงานต่างๆ ให้มีความรู้และความชำนาญ เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ การจัดการฝึกอบรมนอกจากจะช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของคนงานให้ดีขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างทัศนคติและความรับผิดชอบในหน้าที่ของคนงานให้สูงขึ้นด้วย ซึ่งผลที่ได้จากการฝึกอบรมจะมีส่วนช่วยให้ผลผลิตของโรงงานมีคุณค่าเพิ่มสูงขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการผลิตที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากสาเหตุของความบกพร่องทางด้านเทคนิคการผลิต หรืออุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้น

เลือกวิธีการสอนเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้สัมผัสและมองเห็นสภาพความเป็นจริงมากที่สุด โดยใช้โสตทัศนูปกรณ์อย่างเพียงพอ เลือกวิธีการสอนที่จะทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ทดลองทำงานจริงๆ เลือกวิธีการสอนเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้มีการฝึกบ่อยครั้งในเวลากำหนด ให้ฝึกจากวิธีง่ายไปหายากตามลำดับการทำงานแต่ละส่วน และตอนสุดท้ายให้ฝึกทำงานตั้งแต่ต้นจนสำเร็จขั้นสุดท้าย

ในส่วนของการให้คำปรึกษาแนะนำแก่พนักงานในสถานประกอบการก็เช่นเดียวกัน ถือว่าเครื่องมือแก้ปัญหาของคนในองค์กร อันจะนำมาซึ่งผลสำเร็จขององค์กรในที่สุด เพราะขึ้นชื่อว่า “คน” ในทุกหนทุกแห่งไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ เพศ สัญชาติ เชื้อชาติ และศาสนา ย่อมหลีกหนีไม่พ้นกับคำว่า “ปัญหา” พูดง่ายๆว่าปัญหากับคนเป็นของคู่กัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ที่ไหนมีคน ที่นั่นมีปัญหา

เมื่อคนหนีไม่พ้นคำว่า “ปัญหา” เครื่องมือที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาและกำจัดปัญหาให้กับคนได้ก็คือ การให้คำปรึกษา (Counseling) เป็นทางออกและทางเลือกที่เหมาะสมกับหลายๆ สถานการณ์ในชีวิตคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตของคนที่ทำงานในองค์กร

เราต้องเข้าใจว่าคนที่มีอยู่รวมกันในองค์กรใดองค์กรหนึ่งนั้น มาจากต่างพ่อ ต่างแม่ ต่างเพศ ต่างวัย ต่างชนชั้น ต่างวรรณะ ต่างวุฒิ ต่างการศึกษา และมีความต่างจิต ต่างใจกันเป็นพื้นฐาน เมื่อเข้าอยู่รวมกันโดยมีผลประโยชน์ร่วมกันแล้ว การกระทบกระทั่งกันทั้งเรื่องของงานและเรื่องของส่วนตัวก็ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา มากบ้างน้อยบ้าง สลับกันไปตามอารมณ์ของคนในแต่ละช่วงเวลา

ในทุกสังคม เรามักจะเห็นว่าเมื่อคนบางคนมีปัญหา คนบางคนจะเป็นผู้ให้คำปรึกษา ซึ่งมีทั้งผู้ให้คำปรึกษาเพราะความจำเป็น หรือเป็นผู้ให้คำปรึกษาแบบสมัครใจ มีทั้งผู้ที่มีความสามารถในการให้คำปรึกษาและผู้ที่ขาดความเข้าใจในหลักของการให้คำปรึกษา ซึ่งอาจจะแก้ปัญหาได้บ้างไม่ได้บ้าง

เมื่อหันมามองในองค์กรของเรา จะพบว่าเมื่อเพื่อนร่วมงานมีปัญหาเขามักจะหาใครบางคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมเป็นผู้ให้คำปรึกษา ถ้าผู้ให้คำปรึกษาสามารถช่วยให้เขาลดระดับของปัญหาลงหรือแก้ปัญหาได้ ครั้งต่อๆไปเมื่อมีปัญหาเขาก็จะเดินเข้ามาหาอีก และคนที่เป็นผู้ให้คำปรึกษานี้จะได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นผู้นำกลุ่มทางจิตใจไปได้เหมือนกัน ถ้าผู้ที่เป็นผู้นำทางจิตใจของคนในองค์กรเป็นคนดีก็ดีไป แต่ถ้าผู้นำทางจิตใจอาศัยความได้เปรียบนี้ไปใช้ในทางที่ไม่สร้างสรรค์อาจจะเกิดปัญหาอันชวนให้ปวดหัวแก่การบริหารงานภายในองค์กรได้เหมือนกัน