ปัจจุบันนี้ธุรกิจหรือองค์กรต่างมีการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น การบริหารองค์กรหรือการจัดการยุคใหม่นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องการผู้นำในการบริหารองค์กรที่มีวิสัยทัศน์และเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งคนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการองค์กร เพราะองค์กรจะเจริญเติบโตขึ้นก็เพราะพนักงานทุกคนในองค์กร ผู้นำที่สามารถสร้างพลังแห่งความศัทธาให้กับพนักงานในองค์กรได้ หรือสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์ให้บุคคลในองค์กรได้รับรู้ได้ก็จะเป็นผู้นำที่ทรงพลังในยุคโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้
เนื่องจากการแข่งขันทางธุรกิจหรือองค์กรธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้อยู่แต่เพียงภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งมีการซื้อขายสินค้าและการบริการระหว่างประเทศต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นโลกาภิวัตน์ล้วนมีผลกระทบ เพราะการแข่งขันแบบโลกาภิวัตน์ มุ่งเน้นต่อการสร้างมาตรฐานการบริการที่มีคุณภาพสูงขึ้นแก่ลูกค้า ผู้นำในยุคปัจจุบันต้องมีความแตกต่างจากการบริหารธุรกิจในอดีตเป็นอย่างมาก เพราะความต้องการของลูกค้าและพนักงานมีความแตกต่างและเปลี่ยนแปลงไป และผู้นำที่มีประสิทธิภาพในยุคโลกาภิวัตน์จะต้องประกอบด้วยการคิดแบบโลกาภิวัตน์ เล็งเห็นเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรม พัฒนาความชำนาญทางด้านเทคโนโลยี สร้างคู่ค้าธุรกิจและพันธมิตร และสร้างการมีส่วนร่วมในการเป็นผู้นำ
การมีไมตรีจิต มีน้ำใจต่อกัน สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ย่อมจะมีผลให้เกิดการร่วมมือร่วมใจมากกว่าการใช้อำนาจหน้าที่สั่งการ โดยต้องพยายามผูกมิตรตั้งแต่ต้นและป้องกันไม่ให้เกิดความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ และหากมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องแจ้งให้ทราบ เพื่อมิให้เกิดความคลาดเคลื่อนและเข้าใจในชุดข้อมูลที่ได้สื่อสารกันแล้วอย่างผิดพลาด ซึ่งการประสานงานที่ดีจะช่วยให้การทำงานบรรลุเป้าหมายได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ทุกคน ทุกฝ่ายมีความเข้าใจถึงนโยบายและวัตถุประสงค์ของหน่วยงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลา ทรัพยากร และสิ่งของต่างๆ ในการทำงานจะทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มผลสัมฤทธิ์ชองงานได้มากขึ้น และยังสร้างความกลมเกลียว ความเข้าใจอันดี ความรัก ความสามัคคี และก่อให้เกิดการทำงานเป็นทีม สร้างความสำนึกในการรับผิดชอบร่วมกัน รวมถึงเข้าใจข้อเท็จจริงและปัญหาของหน่วยงานที่สามารถจะนำไปสู่การกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และพิจารณาลู่ทางเพื่อการปรับปรุงและพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย